ครีมหัวไชเท้า รักษาฝ้า-กระ ปลอดภัยไม่อันตราย

ฝ้าคืออะไร 


        ฝ้า เป็นรอยผิวหนังสีน้ำตาล หรือสีดำ พบตามบริเวณที่ผิวหนังที่โดนแสงแดดบ่อยๆ จนเกิดรอยฝ้าค่อยๆ เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ รวมกันเป็นปื้น หรือเข้มเป็นกระจุกๆ บริเวณที่พบฝ้าได้บ่อยๆ คือ เหนือริมฝีปาก หนวด คาง หน้าผาก แต่บางคนก็เป็นฝ้าที่ตำแหน่งอื่นๆ ที่โดนแสงแดด เช่น ที่หน้าอก แขน หลัง ส่วนใหญ่ ฝ้า มักพบได้ในหญิงวัยกลางคน อายุประมาณ 30-40 ปี




ฝ้าแบ่งได้ 2 ชนิด

     ฝ้าแบบลึก  : จะอยู่ในชั้นที่ลึกกว่าหนังกำพร้า เกิดความผิดปกติในผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีม่วงๆ อมน้ำเงิน รักษาได้ยากกว่าฝ้าแบบตื้น การทายาฝ้า จะช่วยให้บรรเทาอาการฝ้าดีขึ้นเท่านั้น ต้องทาเป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอด้วย

     ฝ้าแบบตื้น  : จะอยู่ระดับผิวหนังกำพร้า หรือผิวชั้นนอก มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อน แต่รักษาให้หายได้ไว เพียงใช้ยาทาฝ้าอ่อนๆ และครีมกันแดด ฝ้า กระ ก็จะค่อยๆจางหายไปในที่สุด



ครีมรักษาฝ้า ทั่วไป

        ปัจจุบันมีครีมรักษาฝ้า ผลิตออกมามากมาย ทั้งที่สกัดจากธรรมชาติ และสารเคมี อย่าง สารไฮโดรคิวโนน ซึ่ง สารไฮโดรคิวโนนนี้ ต้องได้รับการรับรองจากแพทย์ผิวหนังเท่านั้น ซึ่งจะใส่ สารไฮโดรคิวโนน ได้ในปริมาณเพียงแค่ 4% หากมากกว่านั้นและใช้ต่อเนื่องนาน7วันขึ้นไปจะเเกิดผลเสียต่อผิวหน้าได้

        ส่วนครีมรักษาฝ้าทั่วไป ที่บอกว่าหายแน่ เห็นผลชัวร์ใน 7 วัน หรือ 3 วัน เป็นครีมที่มีความเสี่ยงสูงต่อผิวหน้า เพราะใส่ สารไฮโดรคิวโนน ในปริมาณสูง เมื่อใช้แล้ว ฝ้าหายจริง ผิวขาวใส แต่เมื่อหยุดใช้ ปัญหาหน้าพังตามมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน อย่าง ฝ้าฝังลึก สิวเห่อ หน้าไหม้ บางรายเลวร้ายถึงขั้น หน้าพังพินาศ แก้ไม่หาย ทำลายระบบประสาท และเป็นมะเร็วผิวหนังกันเลยก็มี



ครีมรักษาฝ้าหัวไชเท้า Manee Skincare

        ครีมรักษาฝ้าที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ อย่าง หัวไชเท้า มี วิตามินซี ฟอสฟอรัส สังกะสี และวิตามินบี เป็นประโยชน์กับผิวพรรณสูง หัวไชเท้าช่วยทำให้มีความชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง และมีสรรพคุณเรื่องการฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหน้า สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างดี และนอกจากนี้หัวไชเท้ายังช่วยรักษาผิวแห้ง เป็นผื่น ไปพร้อมการรักษา ฝ้า กระได้อีกด้วย เหมาะสำหรับผิวแห้ง เนื้อครีมเข้มข้นใช้เพียงเล็กน้อยก็ให้ความชุ่มชื้นสูง สามารถใช้ได้นานถึง 1-2 เดือน พร้อมให้สารป้องกันแดด ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝ้า




ครีมรักษาฝ้าสูตรหัวไชเท้า ใช้อย่างไร ให้ได้ผล
     
         สำหรับผู้ที่เป็น ฝ้า กระ แบบตื้น สีเบาบาง สามารถใช้ครีมรักษาฝ้าสูตรหัวไชเท้าเดี่ยวๆได้เลย เมื่อทาเป็นประจำ เช้า - เย็น หลังล้างหน้า

         แต่หากใครที่มีฝ้าลึกหน่อย ควรใช้ควมคู่กับเซรั่มยูโรคิดส์ ที่มีสารสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติถึง 9 ชนิด ได้แก่ หัวไชเท้า, ใบบัวบก, ว่านหางจรเข้, มะเขือเทศ, ชุมเห็ดเทศ, เจียวกู่หลัน, มังคุด, สาหร่าย และแตงกวา ซึ่งสารสกัดเหล่านี้มีฤทธิ์ในการยับยั้งเมลานิน ต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวให้กระชับ ยืดหยุ่น ชุ่มชื้น และตรงเข้าไปทำลายรอยฝ้า กระ ให้จางลงได้ดี เมื่อใช้ควบคู่กับ ครีมรักษาฝ้าสูตรหัวไชเท้า 

        ครีมกันแดด ก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากอยากได้ผิวหน้าที่ไร้รอย ฝ้า กระ เมื่อทาทั้งเซรั่ม และครีมรักษาฝ้าสูตรหัวไชเท้าแล้ว ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 PA+++ เพื่อช่วยป้องกันรังสี UVA/UVB ที่เข้ามาทำร้ายผิวให้เกิดรอยฝ้า กระ นั่นเอง

ข้อควรระวัง หากไม่อยากให้ฝ้า กระ ตามมา

         การใช้ครีมรักษาฝ้า ช่วยในการลดเลือนรอยฝ้า กระ ได้แล้ว สิ่งที่ควรระวัง และควรคำนึงถึงอยู่สม่ำเสมอคือ การออกแดด ซึ่งทราบกันดีอยู่แล้วว่า แสงแดดทำร้ายผิวหน้าให้เกิดฝ้า หากไม่อยากให้ ฝ้า กระ ตามรังควานใจ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลานานๆ หากงานที่คุณทำอยู่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงแดดได้ ควรทาครีมกันแดดทุกๆ 30 นาที และใส่หมวก หรือกางร่ม จะเป็นการดีในการรักษาฝ้าบนผิวหน้าของคุณได้ระดับที่ดีเลยทีเดียว




นอกจากใช้ครีมรักษาฝ้า สิ่งที่ควรทำ คือ..
 

1. พักผ่อนให้เพียงพอ 
    ควรนอนพักผ่อนให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชม. เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน ระบบภายในร่างกายได้ฟื้นตัว ทำให้อนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิวจนเกิดฝ้าถูกเม็ดเลือดขาวทำลายจนฝ้า กระที่มีจางลงได้

2. เลี่ยงเครื่องสำอางที่มีน้ำหอม
    เครื่องสำอางที่มีน้ำหอม มีแอลกอฮอล เป็นส่วนประกอบ อาจทำให้เกิดฝ้า หรือ จุดด่างดำที่เลวร้ายต่อผิวหน้าของคุณได้ เมื่อปฏิกิริยาจากน้ำหอม หรือ แอลลกอฮอล ได้สัมผัสกับรังสี UV จากดวงอาทิตย์ จะทำให้เกิดปฏิกิริยา phototoxic ทีทำให้เกิดฝ้า

3. การทานน้ำมันตับปลา
     ทานน้ำมันตับปลา ให้ได้วันละ 2 เม็ด ช่วยดับอาการไหม้บริเวณที่เป็นฝ้า และฝ้าที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะเวลาที่หน้ามี ฝ้า มักจะเกิดอาการอักเสบ รวมถึง ฮอร์โมนของผู้หญิง ทำให้สร้างเม็ดสีเมลานินมามาก จนเกิดรอยน้ำตาลไหม้ ตามใบหน้าได้

4. การดื่มน้ำ
    ดื่มน้ำสะอาดมากๆ ให้ได้อย่างน้อย วันละ 8 - 10 เป็นการช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ขับของเสียออกจากร่างกายได้ง่ายๆผ่านทางเหงื่อ และปัสสาวะ ทำให้ผิวพรรณเปร่งปรั่ง สุขภาพดี ไร้ปัญหาฝ้าตามมา

5. การออกกำลังกาย
    นอกจากสุขภาพจะดี แข็งแรงแล้ว โรคภัยจะไม่ถามหา และไม่ทำให้คุณเครียด เมื่อร่างกายได้บำบัดจากการออกกำลังกาย ทำให้คุณพักผ่อนได้เพียงพอ ฝ้าก็จะไม่สะสมหรือก่อตัวมาทำร้ายผิวหน้า

6. พอกหน้าด้วยสมุนไพรรักษาฝ้า

    6.1 หัวไชเท้า นำมาบด ผสมกับ น้ำมะนาว นำมาพอกทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตา และริมฝีปาก พอกทิ้งไว้ 10-15 นาที
           หัวไชเท้า มีเชื้อจุลินทรีย์ที่ช่วยในการยับยั้งการเกิด เมลานิน ที่เป็นสาเหตุของรอยดำจากสิว ฝ้า กระ

     6.2 ใบบัวบก นำใบบัวบกมาล้างให้สะอาด เติมน้ำเล็กน้อย ปั่นให้ละเอียด นำมาพอกหน้าก่อนนอน 15-20 นาที
           ใบบัวบก มีส่วนช่วยทำให้ผิวหน้าแข็งแรง ลดเลือนรอยดำจากสิว และรอยฝ้า กระ ได้อย่างดีเยี่ยม

     6.3 มะนาว นำน้ำมะนาวแต้มที่รอยดำ 15-20 นาที 
           AHA ในมะนาว จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป ทำให้รอยดำ ฝ้า กระ จางลง วิตามิน C ในมะนาวจะทำให้ผิวหน้า ขาวใสขึ้น 



          เพียงเท่านี้ ผิวหน้าของคุณที่เป็นฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆก็จางลงอย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีอันตราย อย่าง ไฮโดรคิวโนน แล้วค่ะ เพียงแค่ใช้ครีมรักษาฝ้าสูตรหัวไชเท้า ของ  Manee Skincare รวมถึงใช้เซรั่ม และกันแดดควบคู่กัน หน้าของคุณก็จะกลับมาขาวใสดังเดิมแล้วค่ะ แต่ใช่เวลาสักหน่อยนะคะ สำหรับครีมที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ